อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ครอบคลุมถึง 11 อำเภอ 4 จังหวัดและมีเนื้อที่กว่า 2,168 ตารางกิโลเมตร โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประวัติ ความเป็นมาเริ่มจากทางด้านอุทยานแห่งชาติของสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ(INTERNATIONNAL UNION OF CONSERVATION OF NATURE AND RESOURCES – IUCN) ซึ่งได้มีการดำเนินการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ และทำให้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดที่ดินบริเวณป่าเขาใหญ่ บนพื้นที่บริเวณเทือกเขาพนมดงรักห์ จึงได้เป็นอุทยานมรดกอาเซียน และเป็นอุทยานแห่งแรกในประเทศไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ พันธุ์ไม้สวยงามกับสัตว์ป่าที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องไปแวะเวียนกันทุกปี
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับจุดชมวิวผาเดียวดายสุดคลาสสิค
(จุดชมวิวผาเดียวดาย ที่การเดินทางขึ้นไปถึงยอดเขาอาจจะดูยากลำบาก ซึ่งอยู่บนยอดเชาเขียวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถนนยังชันและมีโค้งหักศอก เมื่อขึ้นไปเกือบถึงยอดเขาก็จะมีที่จอดรถให้บริเวณใกล้กับผาเดียวดาย ก็จะต้องเดินเท้าต่อไปอีก 15 นาทีจะถึงจุดชมวิวผาเดียวดาย ซึ่งจะเห็นมีเขาสมอปูนอยู่ในทางขวามือและจะมีทุ่งงูเหลือมอยู่พื้นที่ตรงกลาง โดยระหว่างทางที่เดินผ่านจะได้ชื่นชมธรรมชาติ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณสวยงามต่าง ๆ ยังมีไม้ใหญ่ที่จะถูกปกคลุมด้วยมอสส์เป็นสีเขียวซึ่งแสดงถึงความสดชื่นเหมือนได้อยู่ท่ามกลางป่า และกลิ่นหอมของดอกไม้ตามธรรมชาติ
น้ำตกเหวนรกจากชื่ออาจแฝงไปด้วยความน่ากลัว แต่น้ำตกเหวนรกนั้นเป็นน้ำตกที่มีความสูงและมีความสวยงามของพื้นที่โดยรอบและตัวน้ำตกเองที่ตั้งอยู่ ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยปัจจุบันการเดินทางขึ้นมาน้ำตก จะสะดวกมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งเมื่อมาถึงที่ลานจอดรถแล้วจะเดินมายังน้ำตกใชระยะทาง 1 กิโลเมตรเท่านั้นและในการเดินทางก็ยังจะสามารถชมธรรมชาติ ซึ่งหากได้เข้าไปใกล้เท่าไรจะยิ่งเห็นถึงความสวยงาม เมื่อถึงตัวน้ำตกจะมีบันไดลงไปอีกประมาณ 50 เมตร เมื่อลงไปถึงจุดชมวิวก็จะเห็นความสวยงามที่ล้อมรอบตัวเรา กับความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกได้อย่างสวยงาม ฤดูที่จะสร้างความประทับใจได้มากที่สุดในการไปเยือนน้ำตกเหวนรกนี้จะเป็นช่วงฤดูฝนซึ่งจะมีน้ำมาก จะเกิดละอองน้ำจะกระเซ็นและกระทบกับแสงอาทิตย์เกิดเป็นสายรุ้ง ซึ่งจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะได้เก็บภาพได้อย่างสวยงาม
จะเป็นจุดที่จะได้พักผ่อน กางเต็นท์ นอนฟังเสียงสัตว์ที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งจะเป็นแหล่งน้ำสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประวัติของอ่างเก็บน้ำสายศร แต่เดิมใช้ชื่อว่าอ่างเก็บน้ำมอสิงโตโดยตั้งจากรูปทรงของอ่างเก็บน้ำที่รูปร่างคล้ายกับสิงโต และต่อมาได้เปลี่ยนเป็นอ่างเก็บน้ำสายศร ซึ่งตั้งให้เป็นเกียรติให้แก่นายบุญเรือง สายศร อดีตเจ้าหน้าที่หัวหน้าอุทยานเขาใหญ่คนแรกที่เป็นผู้ร่วมจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกเลยล่ะ
ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีหอดูสัตว์ที่จะมีด้วยกัน 3 แห่ง คือหอดูสัตว์หนองผักชี, หอดูสัตว์มอสิงโต, หอดูสัตว์คลองปลากั้ง โดยทั้งหมดนี้จะให้มีการสร้างใกล้ ๆ กับโป่ง เนื่องจากสัตว์จะลงมากินดินโป่ง โดยที่จะเห็นได้ส่วนมากจะเป็นกวาง ช้างป่ามีบ้างแต่น้อย และกระทิงหากโชคดี เพราะนาน ๆ ทีจะลงมากินดินโป่ง โดยโอกาสที่จะเห็นกระทิงนั้นจะอยู่ที่จุดหอดูสัตว์คลองปลากั้ง แต่ในการเข้าไปดูสัตว์จะต้องเช็คเวลาด้วยว่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดกี่โมงซึ่งโดยปกติจะเปิดให้เข้าชมได้ เวลา 06.00น.-18.00น.เท่านั้น